สำหรับบรรดาเยสุอิต การเดินทางเพื่อเป็นสมาชิกของคณะแห่งพระเยซูเจ้าอย่างสมบูรณ์นั้นใช้เวลา 15 ถึง 20 ปี การเดินทางนี้มีช่วงการอบรมที่เรียกว่า "เทอร์เชียนชิป" (Tertianship) ซึ่งเรียกขานกันว่า “โรงเรียนแห่งหัวใจ” หรือ “นวกสถานรอบที่สอง” ขั้นตอนสุดท้ายนี้เกิดขึ้นหลังจากการบวชเป็นพระสงฆ์แล้ว 3-5 ปี หรือหลังจากทำงานอภิบาลมาสักระยะหนึ่ง สำหรับผมเอง ช่วงการอบรมนี้มาถึงหลังจากที่ผมรับการบวชเป็นพระสงฆ์แล้วสิบปี (พฤษภาคม ค.ศ. 2014)
ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม ถึง 31 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 มีเยสุอิต จำนวน 8 คนจาก 7 สัญชาติมาเข้ารับการอบรมของคณะฯ ที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย พวกเราผ่านการศึกษาทางวิชาการและประสบการณ์ทำงานมาระยะหนึ่ง พวกเราได้กลับมารื้อฟื้นจิตตารมณ์ของคณะฯ ซึ่งแตกต่างจากช่วงการเป็นนวกภาพเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้พวกเราได้นำประสบการณ์ชีวิตมาด้วย—ทั้งความสุขและความท้าทาย ช่วงเวลาของความสงสัยและความกระจ่าง—เพื่อไตร่ตรอง และแสวงหาน้ำพระทัยของพระเจ้า โดยมี คุณพ่อ Steve Curtin และ คุณพ่อ Brian McCoy เยสุอิตทั้งสองเป็นเพื่อนผู้ร่วมเดินทาง ให้การอบรม และนำทางเราในช่วงการอบรมในครั้งนี้
ในระหว่างการอบรม เรากลับไปศึกษาความเป็นเยสุอิตในแหล่งข้อมูลของคณะฯ เริ่มต้นจากการศึกษาชีวประวัติและงานเขียนของนักบุญอิกญาซีโอ แห่งโลโยลา การฝึกปฏิบัติจิตของท่าน ประวัติศาสตร์ของคณะเยสุอิต เอกสารสำคัญของเยสุอิต และรัฐธรรมนูญของคณะฯ เอกสารเหล่านี้ช่วย เราได้เข้าใจตัวตนความเป็นเยสุอิตและกระแสเรียกของเราได้ลุ่มลึกมากยิ่งขึ้น
การฝึกปฏิบัติจิตสามสิบวันแบบนักบุญอิกญาซีโอ แห่งโลโยลา เป็นเวลาสำคัญของช่วงเวลานี้ พวกเราได้รับโอกาสสัมผัสประสบการณ์นี้ที่ Sevenhill ช่วงเวลาหนึ่งเดือนของการปฏิบัติจิตและการไตร่ตรองภาวนาอย่างเข้มข้นในความเงียบ โดยมีคุณพ่อผู้นำการเข้าเงียบเป็นผู้นำทาง กลายเป็นช่วงเวลาพิเศษกับพระเจ้า ผมได้ซึมซับและขอบคุณพระเจ้าอย่างลึกซึ้งในการเข้าเงียบครั้งนี้ เพราะพระองค์ประทับอยู่ด้วยความรักในชีวิตของผมตลอดเวลา
นอกจากปฏิบัติจิตแล้ว ชีวิตหมู่คณะฯ ยังคงเป็นศูนย์กลางของประสบการณ์ของการอบรมเช่นกัน การอยู่ร่วมกัน การอธิษฐานร่วมกัน และการไตร่ตรองภาวนาด้วยกัน พวกเราแต่ละคนแบ่งปัน และหนุนนำใจซึ่งกันและกัน นำประสบการณ์ส่วนตัวและงานอภิบาลของเราแต่ละคนมาเล่าสู่กันฟัง พวกเราฟังเรื่องราวและข้อคิดของกันและกันอย่างเปิดใจ ด้วยทัศนคติของการเป็นเพื่อนกันในคณะฯ การหนุนนำใจซึ่งกันและกันนี้ก่อให้เกิดปัญญาและความเข้าใจกันผ่านทางความหลากหลายในภูมิหลังและประสบการ์ณของเราแต่ละคน
ท้ายที่สุดแล้ว Tertainship ช่วยให้เยสุอิตแต่ละคนเสริมสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้า กับเยสุอิตคนอื่นๆ และกับภารกิจเยสุอิตในวงกว้างให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เวลาที่ทุ่มเทสำหรับการไตร่ตรองภาวนาช่วยให้เราเข้าใจหนทางแห่งความเชื่อและกระแสเรียกของเราอย่างจริงจัง และไตร่ตรองว่าพระ คริสตเจ้ายังคงเรียกเราให้เดินหน้าต่อไปกับพระองค์ในแต่ละวันอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือการอบรม Tertainship เตรียมพวกเราเยสุอิตสำหรับการปฏิญาณครั้งสุดท้าย เพื่อเราจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกของคณะพระเยซูเจ้าอย่างสมบูรณ์
(โดย พ่อ ยอด SJ )