จุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์คณะเยสุอิตในสยาม (ค.ศ. 1607-1767)
“คณะแห่งพระเยซูเจ้า” หรือทุกวันนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ “คณะเยสุอิต” ได้ ถือกำเนิดขึ้นมาโดยอาศัยพระหรรษทานที่พระเจ้าทรงประทานแก่นักบุญ อิกญาซีโอและบรรดามิตรสหายอื่นๆ อีก 9 คน ซึ่งคณะนี้ได้รับการรับรองอย่าง เป็นทางการโดยพระสันตะปาปาเปาโลที่ 3 ในปี พ.ศ. 2083 ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้น มา มีชายหนุ่มจำนวนมากที่ติดตามและมอบตัวเองในคณะฯนี้เพื่อรับใช้พระเจ้า และเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน พวกเขามาจากหลากหลายเชื้อชาติและถิ่นกำเนิดที่ แตกต่างกัน และเป็นที่รู้จักในชื่อ “บรรดาเยสุอิต” โดยในปัจจุบัน เยสุอิตเหล่า นี้กระจายทำงานกันอยู่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยมีจิตตารมณ์เดียวกัน นั่นคือ เพื่อเทิดพระเกียรติพระเจ้าให้ทวียิ่งๆขึ้น (Ad Majorem Dei Gloriam)
หลังจากที่คณะเยสุอิตถูกก่อตั้งเป็นอย่างทางการแล้ว นักบุญฟรังซิส เซเวียร์ หนึ่งในบรรดามิตรสหายผู้ก่อตั้งคณะเยสุอิตได้เดินทางมาแพร่ธรรมที่ เอเชีย ตามบันทึกแล้ว อาณาจักรสยามก็เป็นดินแดนหนึ่งที่ได้ถูกกล่าวถึงใน จดหมายของนักบุญฟรังซิส เซเวียร์ เพราะว่าท่านตั้งใจจะร่วมกับกลุ่มราชทูต สยามซึ่งจะเดินทางไปจีน แต่ท่านยังไม่ทันเข้ามาก็เสียชีวิตลงก่อน ณ เกาะ ซานเขียน ซึ่งไม่ห่างจากจีนแผ่นดินใหญ่เท่าไรนัก ต่อมา ในรัชสมัยของสมเด็จ พระเอกาทศรถ (ธันวาคม พ.ศ. 2150) ได้มีคุณพ่อเยสุอิตชื่อว่า คุณพ่อบัลธาซาร์ สเตวรา เป็นเยสุอิตคนแรกที่เข้ามาเหยียบแผ่นดินสยามและเริ่มทำงาน หลัง จากนั้นก็ได้มีเยสุอิตคนอื่นๆ ตามเข้ามาด้วย
ในสมัยพระนารายณ์มหาราช มีเยสุอิตซึ่งเป็นที่รู้จักหลายคนได้มีโอกาส เข้ามารับใช้เบื้องพระยุคลบาท เช่น คุณพ่อวันกูร์เนรา สถาปนิกผู้สร้างกำแพง เมือง พระราชวัง และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ คุณพ่อตาชาร์ต ซึ่งเข้ามาถึงสยาม ราชทูตจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส และภายหลังก็ได้ไปพร้อมกลับกลุ่ม ราชทูตสยามเพื่อเดินทางไปฝรั่งเศส เป็นต้น
นอกจากนี้ พระนารายณ์ยังทรงโปรดการดูดาวเป็นอย่างมาก พระองค์ จึงทรงให้เยสุอิตที่เชี่ยวชาญทางด้านดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์จำนวนหนึ่ง เข้ามาพำนัก และสร้างหอดูดาวใกล้กับพระราชวังของพระองค์ที่ลพบุรี โดยใน ปัจจุบันยังหลงเหลือซากหอดูดาวดังกล่าว ณ “วัดสันเปาโล” ในปี พ.ศ. 2310 ปัจจุบน หลังจากที่อาณาจักรอยุธยาได้เสียกรุงครั้งที่สองแล้ว ก็ไม่มีเยสุอิตในสยามอีก ต่อไป ถือว่าเป็นการปิดฉากของคณะเยสุอิตในประเทศไทยช่วงแรก
การกลับมาครั้งที่ 2 ของคณะเยสุอิตในประเทศไทย
เกือบสองร้อยปีถัดมา คณะเยสุอิตกลับเข้าสยามอีกเป็นครั้งที่สอง คือ ในปี พ.ศ. 2497 โดยเริ่มจากที่พระสังฆราชหลุยส์ โชแรง ได้เขียนจดหมายถึง มหาธิการของคณะเยสุอิตเพื่อขอบรรดาเยสุอิตเข้ามาทำงานในประเทศไทย คุณพ่อพอล โอไบรอัน ได้ตอบรับคำเชิญ และคุณพ่อเซรุตตี้ พระสงฆ์เยสุอิต ชาวอิตาเลียน ก็กลายเป็นเยสุอิตคนแรกที่เข้ามาในประเทศไทยในช่วงที่สองนี้ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2497 ที่ท่าเรือคลองเตย กรุงเทพฯ หลังจากนั้น ไม่นาน ได้มีเยสุอิตคนอื่นๆ จากหลากหลายประเทศเข้ามาสมทบ พวกเขาเริ่ม เรียนภาษาไทยและทำงานในหลายๆ ด้าน หากแต่งานหลักคือ งานอภิบาลนิสิต นักศึกษาคาทอลิก และการสอนหนังสือ
ในช่วงเวลาต่อมา มีบรรดาบราเดอร์หนุ่มที่ถูกส่งมาแพร่ธรรมใน ประเทศไทยทั้งจากทางฝั่งตะวันตกและทางฝั่งเอเชีย โดยปัจจุบันนั้น บรรดา เยสุอิตเหล่านี้กลายเป็นพระสงฆ์และเป็นกำลังหลักของคณะฯ นอกจากนี้ ใน ช่วงเวลาต่อมา คณะเยสุอิตได้มีสมาชิกที่เป็นคนไทยเองเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่น กัน
ทุกวันนี้ คณะเยสุอิตทำงานที่สามเมืองใหญ่ของประเทศไทยปัจจุบัน คือ กรุงเทพ เชียงใหม่ และเชียงราย หน้าต่อไปจะแนะนำให้ท่านรู้จักพันธกิจของคณะฯ ในสมัยปัจจุบัน